Wednesday, October 31, 2012

เตรียมตัวอ่านวิชางานสารบรรณ

              สำหรับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526  และที่แก้ไขเพิ่มเติม ออกสอบประมาณ 35 ข้อ ถือได้ว่าสำคัญพอๆ กับวิชาภาษาไทย เพราะวิชาภาษาไทยออกสอบ 35 ข้อ
              วิชานี้ เีรียกได้ว่าเป็นวิชาที่ต้องอาศัยความจำ เอกสารที่จะต้องเตรียมคือ

              1. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526  และที่แก้ไขเพิ่มเติม
              2. ระเบียบงานสารบรรณตำรวจ ปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2552 สำนักพิมพ์สูตรไพศาล

              3. ภาคผนวก ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.2526
                  http://www.sc.mahidol.ac.th/scpn/letter1.html  <===== คลิก
              4. สรุปประมวลข้อหารือเกี่ยวกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๒๖ (หากใครหาไม่เจอ สามารถหาซื้อคู่มือสอบ วิชาการสารบรรณและธุรการ ปรับปรุงใหม่ พ.ศ.2554 เล่มสีเขียว สรุปประมวลฯ จะอยู่ในเล่มนี้ค่ะ)

              เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ก็ลงมืออ่านได้ค่ะ อ่านไม่ต่ำกว่า 4 รอบ เมื่ออ่านเสร็จ ก็หาแนวข้อสอบลองทำดูค่ะ หากทำไม่ได้ ติดขัดตรงไหน ก็เปิดตัวบทอ่านดูเพื่อทำความเข้าใจ

              ปล. แนวข้อสอบที่ได้มา บางทีอาจเฉลยผิด ให้ยึดตัวบทเป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ ส่วนหนังสือทั้งสองเล่มนี้ พี่ปอยไม่มีส่วนได้เสียอะไร เพียงแค่แนะนำให้ค่ะ เพราะพี่ปอยก็อ่านทั้ง 2 เล่มนี้ค่ะ

Tuesday, October 30, 2012

เตรียมตัวอ่านวิชาภาษาไทย

            สวัสดีค่ะน้องๆ พี่ปอยห่างหายไปจากบล็อกทั้งสอบตำรวจชั้นประทวน และ สอบตำรวจชั้นสัญญาบัตร ไปนานมากค่ะ เพราะว่ายังต้องปรับตัวกับที่ทำงานใหม่ และภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งถือได้ว่า มีหน้าที่รับผิดชอบที่มากขึ้น เพราะเราได้มาอยู่ในระดับสัญญาบัตรแล้ว ซึ่งถือเป็นผู้บริหารระดับต้น ดังนั้น ความรู้ความสามารถที่เรามี จะต้องนำมาปรับใช้ในการทำงาน รวมถึงหลักการบริหารงานบุคคล (การจูงใจ ขวัญกำลังใจ ภาวะผู้นำ ฯลฯ) ก็จะต้องนำมาใช้ในชีวิตการทำงานด้วยเช่นกัน
          บทความนี้ จะเป็นการแนะนำการอ่านวิชาภาษาไทย ซึ่งถือได้ว่า เป็นวิชาที่สำคัญอีกวิชาหนึ่ง  วิชานี้มีขอบเขตกว้างมาก ไม่สามารถคาดเดาว่าข้อสอบจะออกแนวไหน เพราะในแต่ละปี ข้อสอบไม่เหมือนกัน หากจะวัดกันที่คะแนนสอบนั้น พูดได้ว่าวิชาอื่นๆ นั้น คะแนนสอบจะสูสีกัน แต่จะมาตัดกันที่วิชาภาษาไทย ใครที่มีพื้นฐานวิชาภาษาไทยดี ก็ย่อมได้เปรียบคู่ต่อสู้ค่ะ
          บทความนี้ พี่ปอยจะเขียนจากประสบการณ์จริงในการอ่านหนังสือของพี่ปอยเอง ซึ่่งบอกไว้ก่อนนะคะว่า พี่ปอยไม่ได้เป็นคนเรียนเก่ง หัวปานกลาง ในการสอบแต่ละครั้ง ไม่ได้อยู่ที่ความสามารถอย่างเดียว แต่อยู่ที่ดวงด้วยค่ะ ที่กล่าวมานี้ก็เพราะว่า จากการอ่านหนังสือสอบไม่ว่าจะตอนสอบชั้นประทวน และสอบสัญญาบัตร เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าข้อสอบจะออกอะไร ก็ได้แต่เดาและเก็งข้อสอบเอง เมื่อถึงเวลาสอบปรากฏว่า แต่ละวิชาที่พี่ปอยเก็งข้อสอบนั้นน่ะ มันออกสอบ นี่ก็ถือว่า เป็นเรื่องของดวงเหมือนกันค่ะ
         หากใครติดตามบล็อกสอบตำรวจชั้นประทวน ก็จะทราบว่า พี่ปอยไม่ได้ไปติวที่สถาบันไหน อาศัยอ่านเอง การสอบชั้นประทวนและสอบสัญญาบัตร อ่านหนังสือสอบประมาณ 1 เดือนค่ะ และเป็นการสอบครั้งแรกทั้งชั้นประทวน และสัญญาบัตร น้องๆ คงคิดว่าพี่ปอยเรียนเก่ง หัวดี อยากบอกว่า ที่คิดนั้นผิดค่ะ พี่ปอยอายุมากแล้ว เรียนหนังสือปานกลาง สอบติดตำรวจชั้นประทวนตอนอายุ 34 ปี 8 เดือน สอบติดสัญญาบัตรอายุ 37 ปี 4 เดือน ฉะนั้น ใครที่อายุมาก ก็อย่าเพิ่งท้อนะคะ ทุกคนมีเวลาเท่ากันคือ 24 ชั่วโมงต่อวัน ขึ้นอยู่กับความขยันในการอ่านหนังสือ ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความพยายาม
         กลับเข้ามาเรื่องการอ่านวิชาภาษาไทยกันนะคะ เริ่มต้นคือ การรวบรวมเนื้อหาวิชาภาษาไทย
         1. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน "อ่านอย่างไร และ เขียนอย่างไร" เล่มเล็กๆ เล่มละ 20 บาท 
         2. คำราชาศัพท์
         3. ลักษณนาม
         4. แนวข้อสอบ ก.พ. (การตีความ, วิเคราะห์, เงื่อนไขทางภาษา ฯลฯ)
         5. สำนวน, สุภาษิต, คำพังเพย
         6. คำฟุ่มเฟือย, คำกำกวม, คำประสม, คำซ้ำ, คำซ้อน, คำสมาส ฯลฯ
         7. คำสันธาน, คำบุพบท, คำวิเศษณ์ ฯลฯ
         8. คำภาษาต่างประเทศ
        นี่คือส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทยนะคะ ที่น้องจะต้องหามาอ่าน อ่านให้ครอบคลุมทุกข้อยิ่งดีค่ะ พี่ปอยอ่านวิชานี้อย่างต่ำ 4 รอบค่ะ เพราะว่าวิชานี้พี่ปอยคิดว่ามีความสำคัญ หากเราได้คะแนนวิชานี้เยอะ ย่อมได้เปรียบคู่ต่อสู้ค่ะ
        จำได้ว่า ข้อสอบนายร้อยปี 2554 ที่ผ่านมา (รุ่น 7000/2) ข้อสอบวิชาภาษาไทยแต่ละข้อ โจทย์ยาวมากๆ เลยค่ะ วิชานี้ส่วนใหญ่ทำไม่ค่อยทันกัน พี่ปอยเก็บไว้ทำเป็นวิชาสุดท้าย เพราะว่าโจทย์ยาวมาก กลัวจะเสียเวลาในวิชาอื่นๆ ค่ะ ข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นแนววิเคราะห์ ให้อ่านบทความแล้วสรุปออกมาค่ะ เหมือนแนวข้อสอบ ก.พ. ฉะนั้น วิชาภาษาไทย พี่ปอยแนะนำให้หัดทำข้อสอบ ก.พ. และให้หาไฟล์เสียงของ อาจารย์จากสถาบันติว ใส่ mp3 ฟังในยามว่าง เพื่อที่จะได้รู้เทคนิคในการทำข้อสอบวิชาภาษาไทยค่ะ

Friday, April 13, 2012

วิชาที่สอบ

สายอำนวยการและสนับสนุน (อก.2, อก.4) (คะแนนเต็ม 120 คะแนน) ประกอบด้วย


            1. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 จำนวน 35 ข้อ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

            2. ภาษาไทย จำนวน 35 ข้อ
                 1) ความเข้าใจภาษา
                      การอ่าน และทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความที่กำหนดไว้แล้วตอบคำถาม
ที่ตามมาในแต่ละบทความหรือข้อความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปและตีความด้วย
                 2) การใช้ภาษา
                      - การเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ
                      - การเขียนประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษา
                      - การเรียงข้อความ

            3. ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 จำนวน 20 ข้อ

            4. พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 จำนวน 20 ข้อ และที่แก้ไขเพิ่มเติม, กฎ ก.ตร.ที่เกี่ยวข้อง
                 1) กฎ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2547

                 2) กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2547
                 3) กฎ ก.ตร. ว่าด้วยประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

             5. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ จำนวน 10 ข้อ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546

             ก่อนที่จะสอบนั้น พี่ปอยได้ตั้งเป้าคะแนนไว้ เพื่อที่จะทำข้อสอบให้ได้ตามเป้า อยู่ที่ 105 คะแนน เพราะดูจากคะแนนสอบของปีที่ผ่านมา ของแต่ละภาคนั้น ผู้ที่จะสอบได้ส่วนใหญ่คะแนนอยู่ที่ 104 คะแนน ดังนั้น พี่ปอยจึงตั้งเป้าไว้ที่ 105 คะแนน หากสามารถทำคะแนนได้ตามที่กำหนด นั่นหมายถึง สอบได้แน่นอน ดังนั้น ในปีนี้ พี่ปอยจึงได้คะแนน 107 ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่เราคาดหวังไว้



Thursday, April 12, 2012

เตรียมตัวสมัครสอบ

การสมัครสอบถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่น้องๆ จำเป็นจะต้องอ่านรายละเอียดในการสมัครสอบให้ดี และเลือกสายสอบที่ต้องการ ดังนั้น ให้น้อง ๆ ปริ้นประกาศสอบของหน่วยรับสมัคร ซึ่งมีดังนี้
บช.ศ.  ภ.1 ภ.9  ศชต.  บช.น.  บช.ตชด.  สงป.  บ.ตร.  สทส.  สตม. สพฐ.ตร.  ซึ่งหน่วยรับสมัครในแต่ละปีไม่เหมือนกัน
โดยกำหนดให้แต่ละหน่วยงานดังกล่าวข้างต้น ประกาศรับสมัครและคัดเลือกพร้อมกัน โดยให้ข้าราชการตำรวจมีสิทธิเลือกสมัครและคัดเลือกสายใดสายหนึ่ง และในภาคใดภาคหนึ่ง หรือในหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดสรรอัตราให้ได้ตามความประสงค์ โดยเมื่อเลือกสมัครแล้วต้องสอบข้อเขียนและเข้าทดสอบความเหมาะสมกับตำแหน่งตามสถานที่ ของแต่ละหน่วยสอบนั้นกำหนด (เช่น สมัครสอบ ภ.5 ต้องสอบข้อเขียนและเข้าทดสอบความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ ภ.5 จังหวัดลำปาง หรือ สมัครสอบ บช.ศ.  ต้องสอบข้อเขียนและเข้าทดสอบความเหมาะสมกับตำแหน่งที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กทม. เป็นต้น) และหากเป็นผู้ได้รับคัดเลือกแล้วจะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในภาคหรือหน่วยงานตามที่ได้รับจัดสรรอัตรา ดังนั้น จึงกำหนดให้ผู้สมัครสามารถเลือกสมัครสอบสายใดสายหนึ่ง ได้เพียงสายเดียว และในหน่วยใดหน่วยหนึ่งเท่านั้น

ก่อนทำการสมัครทางอินเทอร์เน็ต ที่เว็บ www.policeadmission.com  ให้น้องเตรียมเอกสารที่จะต้องนำมากรอกให้เรียบร้อยก่อน
เอกสารที่ต้องเตรียม มีดังนี้
1. สแกนรูปถ่ายแต่งเครื่องแบบตามระเบียบครึ่งตัว ขนาด 1 นิ้วเท่านั้น หน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา โดยถ่ายไม่เกิน 6 เดือน (นับถึงวันปิดรับสมัคร) (ย้ำว่า ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน นะคะ) ขนาดไฟล์ไม่เกิน 50 กิโลไบต์
2. สลิปเงินเดือนล่าสุด ซึ่งในใบสมัครจะให้กรอกเงินเดือนล่าสุด ระดับ ป....... ขั้น....... อัตราเงินเดือน.......บาท
3. สำเนาคำสั่งบรรจุแต่งตั้ง ซึ่งในใบสมัครจะให้กรอก วันที่บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก เมื่อ....เดือน.......พ.ศ......
4. ใบปริญญาบัตรหรือ Transcript  ซึ่งในใบสมัครจะให้กรอก
สำเร็จการศึกษาวุฒิปริญญาตรี ปริญญาที่ได้รับชื่อ.....................
สาขาวิชา................
สถานศึกษาชื่อ..........
ที่อยู่สถานศึกษา อำเภอ/เขต..............จังหวัด...............
สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่...........เดือน..................พ.ศ............
                5. สถานที่อยู่ที่ทำงาน............................ตำบล/แขวง.........อำเภอ/เขต............จังหวัด............รหัสไปรษณีย์.............โทรศัพท์ที่ทำงาน................
             
                เมื่อเตรียมเอกสารต่าง ๆ พร้อมแล้ว ก็เริ่มลงมือกรอกใบสมัครตามแบบฟอร์มสมัครสอบสาย อก.4

ข้าพเจ้า ยศ ส.ต.ท.หญิง ชื่อ จีจ้า นามสกุล สุวรรณ
ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ฝส.1 กอง(กบ.) สลก.ตร. สังกัด(บช.) -    (กรณีของพี่ปอย สลก.ตร. เป็นกองบังคับการ ดังนั้น กองบัญชาการ (บช.) พี่ปอยขีด -  )
ประสงค์สมัครเข้ารับการคัดเลือก หน่วย ภ.5 สาย อก.4 (ตัวอักษรย่อสายสอบ)
โดยขอยื่นใบสมัครที่มีรายละเอียดดังนี้
1. เกิดวันที่  22  เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2517  อายุ  38  ปี ระดับ ป.1 ขั้น 16 อัตราเงินเดือน  9,520.00 บาท
2. สำหรับผู้ที่เลือกสอบสาย ปป.11, ปป.12, มว.8 และ คร.9 มีคุณสมบัติตามประกาศรับสมัครข้อใดข้อหนึ่ง ข้อ (ให้ขีด - )
3. ปป.31 , ปป.32, อก.4, สส.5, บช.6 และ ตม.7
    วันที่บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก เมื่อ 28 เดือน กันยายน พ.ศ. 2552
    สำเร็จการศึกษาวุฒิปริญญาตรี ปริญญาที่ได้รับชื่อ บริหารธุรกิจบัณฑิต
    สาขาวิชา การจัดการทั่วไป
    สถานศึกษาชื่อ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
    ที่อยู่สถานศึกษา อำเภอ/เขต 63 หมู่ 4 ต.หนองหาร อ.สันทราย จังหวัด เชียงใหม่
    สำเร็จการศึกษาเมื่อวันที่  15  เดือน มีนาคม  พ.ศ. 2540 (ภายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555)
4. สำหรับผู้ที่เลือกสอบสาย ปป.31, ปป.32, อก.4, สส.5, บช.6 และ ตม.7 เป็นผู้ปฏิบัติงานใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการนับระยะเวลาปฏิบัติงานเป็นทวีคูณตามมติ ก.ตร. ครั้งที่ 4/2553 เกี่ยวกับการนับอายุราชการในการสมัครคัดเลือกครั้งนี้หรือไม่  ไม่มี  (พี่ปอยไม่มี)
5. ที่อยู่สถานที่ทำงาน สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ อาคาร 17 ชั้น 3 ฝ่ายสารบรรณ 1 ถ.พระรามที่ 1 ตำบล/แขวง ปทุมวัน อำเภอ/เขต ปทุมวัน จังหวัด กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10330
โทรศัพท์ที่ทำงาน 022051271
6. ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ xxx หมู่ x ซอย ถนน ตำบล/แขวง xxxxx อำเภอ/เขต xxx จังหวัด เชียงราย รหัสไปรษณีย์ 57120
โทรศัพท์บ้าน 053xxxxxx  โทรศัพท์มือถือ  081xxxxxxx  
7. คะแนนเพิ่มเป็นพิเศษ ตามสิทธิได้รับคะแนนเพิ่มเป็นพิเศษ เมื่อมีกรณีเปิดรับสมัครคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเลื่อนชั้นเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร ตามหนังสือ ตร. ด่วนที่สุดที่ 0034.52/3023 ลง 11 ส.ค. 2553  ไม่มี (พี่ปอยไม่มี)

ตรวจสอบข้อความที่กรอกในแบบฟอร์มข้อมูลการสมัครให้ถูกต้องครบถ้วน เนื่องจากเมื่อส่งข้อมูลการสมัครทางระบบอินเตอร์เน็ตแล้ว จะแก้ไขข้อมูลการสมัครอีกไม่ได้ จึงควรต้องกรอกข้อมูลการสมัครด้วยตนเอง

สั่งพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินที่ธนาคาร ภายหลังดำเนินการเข้าระบบส่งข้อมูลการสมัครทันที

นำแบบฟอร์มการชำระเงิน ไปชำระเงินเฉพาะที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศภายใน 3 วัน นับจากวันที่ส่งข้อมูลการสมัครและสั่งพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน ทั้งนี้ ผู้สมัครสอบทุกคนต้องชำระเงิน ค่าบริการอินเตอร์เน็ตและค่าธรรมเนียมธนาคารจำนวน 30 บาท ในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ

พี่ปอยสมัครในวันแรกของการเปิดรับสมัคร (เริ่มรับสมัครวันแรก วันที่ 24 มกราคม 2555 คินวันที่ 23 มกราคม พี่ปอยรอจนถึงเที่ยงคืน จากนั้นก็ทำการสมัครทางอินเทอร์เน็ต เมื่อสมัครเสร็จ ให้ปริ้นแบบฟอร์มการชำระเงินออกมา 1 แผ่นเพื่อนำไปชำระเงินที่ธนาคารกรุงไทย ในตอนเช้าของวันที่ 24 มกราคม 2555 ไปยืนรอธนาคารเปิดทำการเวลา 08.30 น.)

หลังจากชำระเงินแล้วอย่างน้อย 1 วัน (นับแต่วันชำระเงินที่ธนาคาร) ให้เข้าระบบอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง โดยกรอกเลขประจำตัวประชาชนเพื่อสั่งพิมพ์ใบสมัครและบัตรประจำตัวสอบ (ระบบจะออกรหัสประจำตัวสอบ 9 หลักให้โดยอัตโนมัติ) โดยให้ใช้กระดาษ A4 สีขาวในการพิมพ์ใบสมัครและบัตรประจำตัวสอบ และนำบัตรประจำตัวสอบไปใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบข้อเขียนคู่กับบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรอื่นตามที่กำหนดในระเบียบการสอบข้อเขียน

สำหรับรหัสประจำตัวสอบนั้น น้องไม่ต้องซีเรียสนะคะ เพราะรหัสประจำตัวสอบไม่มีผลอะไรกับเกณฑ์การตัดสินในการสอบข้อเขียน แต่ในกรณีที่ผู้สอบได้คะแนนในทุกวิชาที่สอบเท่ากัน จะให้ผู้ที่ชำระเงินสมัครสอบก่อนเป็นผู้อยู่ในลำดับสูงกว่า

Sunday, April 1, 2012

เกริ่นนำ

          บล็อก "สอบตำรวจชั้นสัญญาบัตร" นี้ ต่อยอดมาจาก บล็อก "สอบตำรวจชั้นประทวน" จุดประสงค์ในการเขียนบล็อกนี้ ไม่ต่างอะไรกับการเขียนบล็อกสอบตำรวจชั้นประทวน นั่นก็คือ การถ่ายทอดประสบการณ์ในการสอบตำรวจ เริ่มต้นจากการเตรียมตัวอ่านหนังสือ การสมัครสอบ การสอบ การสัมภาษณ์ การฝึกอบรม การติดยศ  การเลือกตำแหน่ง  ไปจนถึง การปฏิบัติงานในหน้าที่ ซึ่งในการสอบสัญญาบัตรนี้ สายอำนวยการ (อก.4) ได้ตัดขั้นตอนของการตรวจร่างกายออกไป ซึ่งพี่ปอยจะทยอยลงบทความไปเรื่อยๆ นะคะ
          หากใครที่เคยติดตามบล็อกการสอบตำรวจชั้นประทวน (www.im-police-lady.blogspot.com) ก็จะทราบว่า เจ้าของบล็อกนั้น ไม่ได้เป็นคนเรียนเก่ง ไม่ได้ติวสอบ มีเวลาอ่านหนังสือประมาณ 1 เดือนกว่า  แต่ก็สามารถสอบแข่งขันผ่านด่านต่างๆ เข้ามาเป็น 1 ใน  800 คน จากการสอบแข่งขันจากผู้สมัครสอบทั่วประเทศจำนวนเกือบ 140,000 คน
          ในการรับสมัครและคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเข้ารับการฝึกอบรม เพื่อแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ.ศ.2555 ที่ผ่านมานี้ ถือได้ว่า ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย เพราะสอบติดเป็นตัวจริง ได้อันดับต้น ๆ ของภาค โดยใช้ประสบการณ์ในการสอบตำรวจชั้นประทวน แต่ต้องเพิ่มความขยันในการอ่านหนังสือมากขึ้น เพราะเนื้อหาที่ใช้ในการสอบครั้งนี้ เยอะมาก อีกทั้งยังต้องแบ่งเวลาเพื่อใช้ในการทำการศึกษาค้นคว้าอิสระ (IS) ในระดับปริญญาโท และการสอบประมวลความรู้เพื่อสอบจบปริญญาโท ก็เลี่ยไล่กับการสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตร ถือได้ว่าเป็นงานหนักมาก เพื่อที่จะทำให้ประสบความสำเร็จทั้งสองทาง
          ซึ่งการสอบสัญญาบัตรครั้งนี้ แรงใจเป็นสิ่งสำคัญและมีส่วนช่วยให้การสอบนั้นประสบความสำเร็จ ดังนั้น น้องๆ ที่กำลังจะเริ่มต้นอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวในการสอบสัญญาบัตรที่จะเปิดอีกนั้น ต้องตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่ใช่ว่าจะ "ลองสอบเผื่อสอบได้" การสอบสัญญาบัตร ไม่ใช่อาศัยแค่ดวง หรือกาแม่น แต่ต้องอ่านหนังสือ อ่านให้มากๆ ทำความเข้าใจในตัวบท ซึ่งพี่ปอยจะเขียนแนะนำการอ่านในแต่ละวิชาในบทความต่อไป 
          ก่อนที่จะมีการรับสมัครสอบนั้น ในช่วงแรกๆ พี่ปอยท้อมาก เพราะยังทำ IS ไม่เสร็จ กำหนดส่งเดือน ก.พ. ซึ่งจะสอบสัญญาบัตรวันที่ 11 มี.ค.55 ทำให้มีเวลาแค่  1 เดือน กับ 11 วันในการอ่านหนังสือ ถึงกับออกปากบ่นกับเพื่อนๆ ว่า "สอบครั้งนี้ขอลองสอบก่อน ค่อยตั้งใจสอบคราวหน้า เพราะสอบครั้งนี้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ คงจะไปสู้กับคนที่ไปติวสอบ สู้กับรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ในการสอบ หรือสู้กับเพื่อนๆ ที่อ่านหนังสือกันล่วงหน้าก่อนเราไม่ได้"  อยากจะบอกน้องๆ ว่า พี่ปอยคิดผิดอย่างมาก 
           หลังจากที่พี่ปอยส่ง IS เสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ก็มาเริ่มอ่านหนังสือ วันจันทร์-ศุกร์ อ่านช่วงมีเวลาว่างคือ 3 ทุ่มไปเรื่อยๆ จนง่วง ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ก็อ่านทั้งวัน หลังจากที่ได้อ่านหนังสือแล้ว ทำให้มีเวลาคิดว่า "ทำไมเราต้องปล่อยโอกาสในการสอบครั้งนี้ โดยที่ไม่ทำให้ดีที่สุด ทำไมต้องรอการสอบของคราวหน้า ซึ่งจะทำให้มีคู่แข่งขันมากกว่า"  กอปรกับ ทราบข่าวจากทางบ้านว่า คุณพ่อไม่สบาย ทำให้พี่ปอยเกิดแรงฮึดขึ้นมาทันที และต้องการสอบผ่าน เพื่อจะได้กลับบ้านไปดูแลคุณพ่อ และครอบครัว และนี่คือ "แรงใจ" ที่ทำให้การสอบครั้งนี้ประสบความสำเร็จ